Swordsman เดชคัมภีร์เทวดา






เรื่องย่อ : Swordman 2 เดชคัมภีร์เทวดา ภาค 2
Swordsman II หนังปี 1993 ผลงานการสร้างของฉีเคอะอีกเรื่อง ยอดผู้อำนวยการสร้างต่อยอดความสำเร็จจากหนังภาคแรก ปรับเปลี่ยนรูปโฉมหลายๆ ประการตัดความเป็นหนังกำลังภายในแบบ Tradition ออกจนเกือบหมด กลายเป็นงานที่ฉุดลากหนังกำลังภายใน ให้เข้าอยู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง

น่าจะพูดได้ว่า Swordsman II หรือ เดชคัมภีร์เทวดาภาคสอง นั้นเป็นงานที่โด่งดังที่สุดในหนังไตรภาค หนังใส่สีสรรค์ความหวือหวาต่างๆ เพิ่มขึ้นมาจากภาคแรกเป็นทวีคูณ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ หลุดโลกเลยเถิดไปจนเกินรับได้เหมือนหนังภาคสาม ฉีเคอะ ผสมผสานคิวบู๊ระดับเทพ งานสร้างตระกาลตา เข้ากับเนื้อหาที่ถือว่ารุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกำลังภายในทั่วไป กับการพูดถึงประเด็นเรื่องความรักร่วมเพศ ได้อย่างคาดไม่ถึง

เดชคัมภีร์เทวดาภาคสอง จับความต่อเนื่องจากจุดสิ้นสุดของหนังภาคแรก หลังจากพบเรื่องราวมากมาย เหล่งฮูชง (เจ็ท ลี) งักเล็งซัง (หลี่เจียซิน) และศิษย์น้องร่วมสำนักแห่งหัวซาน ที่เบื่อหน่ายการแก่งแย่งฆ่าแกงกันในยุทธจักร ตัดสินใจที่จะถอนตัว ไปใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แต่มันไม่ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด เหล่งฮูชง งักเล็กซัง และศิษย์หัวซานที่เหลือรอดชีวิต ตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าอย่าง ที่ทิ้งเยื่อไยกันเอาไว้อย่าง ยิ่นอิ๋งอิ๋ง (กวนจื่อหลิน) สาวชาวดอย แห่งพรรคสุริยันจันทรา

หลินชิงเสีย ดารานำเรื่องนี้ ให้ภาพของตงฟางปู้ป้ายออกมา สูงส่ง สง่างาม แต่ดูลึกลับ เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นชาย และหญิงรวมกัน (เดิมเป็นชาย ผู้ซึ่งยอมเสียอวัยะแห่งความเป็นชายของตัวเองเพื่อสุดยอดวิชา เพื่อจุดสูงสุดของตำแหน่ง จอมยุทธอันดับหนึ่งในแผ่นดิน) เรียกว่าทุกวินาทีที่เธอปรากฏกายในภาพยนตร์ ความสนใจทั้งหมดจะตกไปอยู่ที่เธอ รูปลักษณ์ความเป็นหญิงของหลินชิงเสีย อาจจะจำเป็นต่อหนังในฐานะ หนึ่งในคำถามสำคัญของเรื่อง กฏเกณฑ์ และเส้นแบ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นคืออะไร เป็นไปตามกฏของโลก ธรรมชาติ หรือเพียงของสมมุติความดี ความเลว มีอยู่จริง หรือไม่ ความผิด ความถูก มีจริง หรือไม่ สุดท้าย ฉีเคอะ ผุ้กำกับฯ ก็ยังพยายามเชื่อมโยง เนื้อเรื่องทุกส่วน ของหนัง กับเนื้อหาหลักดั้งเดิมของกิมย้ง ผู้แต่งเรื่อง ที่ว่า ความจริง ที่ไม่อาจโต้แย้งได้ นั้นมีอยู่จริงหรือไม่